รู้จัก “แอมโมเนีย” สารเคมีใกล้ตัวหากรั่วไหลอันตรายแค่ไหน ไขคำตอบกับนักวิชาการ มข.พร้อมแนะวิธีรับมือ
ช่วงหน้าร้อนแบบนี้อุบัติเหตุต่าง ๆ รอบตัวก็มักจะเกิดขึ้นได้ง่าย อย่างกรณีโรงงานน้ำแข็งในชุมชนเกิดเหตุแอมโมเนียรั่ว หรือถังแอมโมเนียระเบิด ก็กลายเป็นข่าวที่มีรายงานเพิ่มมากขึ้น และนับเป็นภัยใกล้ตัว แต่สารเคมีนี้อันตรายมากแค่ไหน หากต้องเผชิญเหตุการณ์ดังกล่าวจะรับมืออย่างไร หาคำตอบกับ ผศ.ดร.ชูศักดิ์ พูนสวัสดิ์ อาจารย์ภาควิชาเคมี คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น “แก๊สแอมโมเนีย NH3 เป็นสารเคมีไร้สี แต่มีกลิ่น น้ำหนักเบากว่าอากาศทำให้มักลอยขึ้นด้านบน และระเหยได้ง่าย กระจายตัวไว ละลายน้ำได้ดี” ผศ.ดร.ชูศักดิ์ ระบุว่า โดยทั่วไปแอมโมเนียมักถูกใช้ในระบบทำความเย็นในโรงงานน้ำแข็ง หรือด้านเกษตรกรรม เช่น ปุ๋ยแอมโมเนียไนเตรท ตลอดจนใช้ในอุตสาหกรรมยางพาราเพื่อให้น้ำยางกระจายตัว และเมื่อเจือจางมาก ๆ ก็สามารถใช้ดมแก้วิงเวียนได้ ในกรณีการใช้แอมโมเนียเป็นสารหล่อเย็นในโรงงานน้ำแข็งนั้นจะมีกระบวนการเปลี่ยนแอมโมเนียจากสถานะของเหลวให้เป็นแก๊สผ่านกระบวนการดูดความร้อน และกดอัดแก๊สที่เกิดขึ้นกลับเป็นของเหลว หมุนเวียนภายในท่อของโรงงานอย่างต่อเนื่องด้วยตัวแอมโมเนียที่มีฤทธิ์เป็นสารกัดกร่อน หากท่อภายในโรงงานมีการใช้งานมานาน ก็มีโอกาสที่แอมโมเนียจะรั่วได้ “อากาศร้อน หรือ ความร้อนก็นับเป็นหนึ่งในตัวเร่งปฏิกิริยาทำให้แก๊สวิ่งเร็วขึ้น จนอาจกัดกร่อนหรือชนผนังท่อมากขึ้น นับเป็นการเพิ่มความเสี่ยงให้แก๊สแอมโมเนียรั่วไหลได้” อย่างไรก็ตาม แอมโมเนียมีระดับความไวไฟอยู่ที่ระดับ 1 คือ จะจุดไฟติดเมื่อมีอุณหภูมิสูงกว่า 93 องศาเซลเซียสขึ้นไป ดังนั้น ในกรณีที่มีการระเบิดของถังแอมโมเนียอาจเกิดจากการมีประกายไฟก็จุดติดได้และหากแก๊สสะสมในปริมาณมากก็อาจจะระเบิดได้ในที่สุด ผศ.ดร.ชูศักดิ์ กล่าวต่อว่า หากแก๊สแอมโมเนียรั่วในพื้นที่ปิด เมื่อชาวบ้านมีการสูดดมในปริมาณมากจะส่งผลให้ระคายเคืองต่อเนื้อเยื่อตา หรือ จมูกได้ และหากสูดดมในระยะเวลานานก็จะทำให้หายใจติดขัดจนสลบ และอาจถึงขั้นเสียชีวิตในที่สุด ดังนั้น […]